News

ชาร์ลี มูซอนด้า “การออกจากเชลซีทำร้ายผมมาก” อดีตวันเดอร์คิดสิงห์บลูส์ ที่แขวนสตั๊ดในวัยเพียง 28 ปี

นับว่าเป็นอีกหนึ่งเคสที่น่าใจหายสำหรับอาชีพนักฟุตบอล เมื่อ ชาร์ลี มูซอนด้า อดีตนักเตะเชลซี ประกาศแขวนสตั๊ดด้วยวัยเพียง 28 ปี หลังประสบปัญหาอาการบาดเจ็บรบกวนตลอดอาชีพการค้าแข้ง

 


นอกเหนือจากเรื่องสภาพร่างกายแล้ว แน่นอนว่าสภาพจิตใจของ ชาร์ลี มูซอนด้า ก็แตกสลายไม่แพ้กัน เพราะที่ผ่านมาไม่ว่าจะลุกขึ้นกี่ครั้ง ย้ายไปเล่นให้กับสโมสรไหน ก็เจอปัญหาเดิมซ้ำ ๆ เล่นงานอยู่ตลอด

แต่จุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้สภาพจิตใจของ ชาร์ลี มูซอนด้า พังพินาศจริง ๆ เกิดขึ้นในปี 2022 เมื่อเขาต้องย้ายออกจาก เชลซี

... เหตุการณ์ในวันนั้นเป็นอย่างไร แล้วทำไม ชาร์ลี มูซอนด้า ถึงบอกว่า “การออกจากเชลซี ทำร้ายผมมาก” ติดตามได้ที่ Main Stand

 

ย้อนกลับไปเมื่อปี 2012 เชลซี สร้างเสียงฮือฮาในวงการฟุตบอลด้วยการคว้าตัวแข้งดาวรุ่งที่ขึ้นชื่อว่าเป็น “แข้งพรสวรรค์สูงที่สุดของเบลเยียม” ณ เวลานั้น อย่าง ชาร์ลี มูซอนด้า ตัวรุกวัย 16 ปี มาจาก อันเดอร์เลชท์ ทีมดังในลีกเบลเยียม พร้อมกับพี่ชายสองคนของเขา

หลังจากนั้น ชาร์ลี มูซอนด้า ก็พัฒนาตนเองเรื่อยมาตามลำดับขั้นเยาวชน ได้รับสัญญาอาชีพฉบับแรก ก่อนจะขึ้นมาอยู่ในสารบบเชลซีชุดใหญ่ในปี 2015 แต่ถึงกระนั้นตัวเขาก็ยังไม่สามารถเบียดตำแหน่งผู้เล่นรุ่นพี่ในทีมได้

สโมสรจึงส่งตัว ชาร์ลี มูซอนด้า ไปเก็บประการณ์ในต่างแดน ไม่ว่าจะกับทั้ง เรอัล เบติส ฤดูกาล 2015-16, เซลติก ฤดูกาล 2017-18 และ วิตเทส อาร์เนม อีกสองฤดูกาล ทว่า ชาร์ลี มูซอนด้า ไม่เคยโชว์ฟอร์มเทพออกมาเลย เนื่องจากปัญหาอาการบาดเจ็บรวบกวนอยู่แทบตลอดเวลา

กระทั่งปี 2022 เขาแยกทางกับ เชลซี ฝากผลงานไว้แค่เพียง 1 ประตู จากการลงสนามให้ “สิงห์บลูส์” ชุดใหญ่ 7 เกมรวมทุกรายการ ก่อนจะย้ายไปอยู่กับ เลบันเต้ และ อนอร์โธซิส ทีมในไซปรัส ตามลำดับ อย่างไรก็ตามสถานการณ์ของเขาไม่ได้ดีขึ้น โดนลอยแพ ไม่มีสโมสรเล่นเป็นเวลาหลายเดือน ก่อนจะตัดสินใจแขวนสตั๊ดในที่สุด

โดย ชาร์ลี มูซอนด้า ประกาศแขวนสตั๊ดผ่านรายการ พอดแคสต์ Rising Ballers ว่า “วันนี้ผมมีประกาศสำคัญ มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย”

“แต่มันเป็นสิ่งที่ผมคิดมานานแล้ว หลังจากทบทวนประสบการณ์ที่ผ่านมาและตัวตนของผม ผมรู้ว่าผมอยากใช้ชีวิตอย่างมีเป้าหมาย เพื่อสร้างแรงบันดาลใจและให้กำลังใจผู้อื่น”

ก่อนที่ ชาลี มูซอนด้า จะเล่าเหตุการณ์ในวันที่เขารู้สึกท้อแท้ที่สุดในชีวิต ตอนต้องย้ายออกจาก เชลซี ว่า “การต้องออกจากเชลซี มันทำร้ายผมมาก มันเหมือนทำลายผมทางจิตใจโดยสิ้นเชิง นั่นคือสิ่งที่เลวร้ายที่สุด”

“ตอนนั้นผมกลับมาซ้อมกับทีมสำรองแล้ว และรู้สึกดีมาก ๆ ที่ได้กลับมา แม้จะยังไม่ฟิตเต็มร้อย แต่แค่ได้กลับมาซ้อมก็ดีใจมากแล้ว”

“ช่วงนั้นทีมชุดใหญ่กำลังไปได้สวย แล้วก็เป็นช่วงโควิด สนามซ้อมถูกแบ่งแยกออกจากกัน ผมจึงไม่ได้เจอทีมชุดใหญ่เลย จนกระทั่งวันหนึ่งช่วงท้ายฤดูกาล ผมบังเอิญเจอ โธมัส ทูเคิ่ล ผู้จัดการทีม ตอนเดินผ่านกันที่ลานจอดรถ เขาบอกว่า ‘เรารอเห็นนายกลับมานะ’ แล้วผมก็ตอบกลับว่า ‘ไม่ต้องห่วงครับ ผมจะกลับมาพร้อมสำหรับพรีซีซั่น’”

“ในหัวผมคิดอยู่เสมอว่าจะได้กลับมาในช่วงพรีซีซั่น แล้วค่อยว่ากันอีกที แต่พอถึงตอนนั้น ทุกอย่างก็เริ่มยุ่งยาก และนั่นคือจุดจบของผมที่ เชลซี ผมต้องออกจากสโมสร”

ทั้งนี้ดูเหมือน ชาร์ลี มูซอนด้า จะมีเป้าหมายในชีวิตใหม่แล้ว นั่นคือการถ่ายทอดประสบการณ์ให้คนรุ่นหลัง เพื่อแสดงให้เห็นว่าอาชีพนักฟุตบอลนั้นแสนเปราะบาง และอาการบาดเจ็บสามารถพรากทุกสิ่งไปได้

 

Author

รณกฤต ตุลยะปรีชา

วัยรุ่นคู้บอน

Graphic

ปฐวี ยอดเนียม

Man u is No.2 But YOU is No.1