News

ดิโอโก้ ดาโลต์ เผยทุ่มสุดตัวเพื่อสโมสร แม้แฟนบอลไม่ชอบสไตล์การเล่น พร้อมมั่นใจ อโมริม พาทีมกลับมาคว้าแชมป์

ปัจจุบันผลงานของ ดิโอโก้ ดาโลต์ อาจไม่เข้าตาแฟนบอลทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สักเท่าไรนักหลังได้รับมอบหมายจาก รูเบน อโมริม กุนซือชาวโปรตุเกส ด้วยการปรับตำแหน่งไปเล่นตำแหน่งวิงแบ็กซ้าย

 


อย่างไรก็ตามเจ้าตัวออกมาเปิดเผยว่าแม้ว่าแฟนบอลส่วนใหญ่อาจจะไม่พอใจกับฟอร์มการเล่นแต่เหนือสิ่งอื่นใดคือแนวรับชาวโปรตุเกสพยายามสื่อว่าเขาเองทุ่มเทให้กับสโมสรนี้อย่างเต็มที่

“บางครั้งคุณมักจะคาดหวังว่าช่วงเวลาที่สนุกสนานที่สุดคือการคว้าถ้วยรางวัลหรือชนะเกม และแน่นอนว่าถ้าผมต้องจำช่วงเวลาเหล่านั้น ผมคงมีความรู้สึกดีที่เราชนะ เปแอสเช ในเกมเยือน ตอนที่ผมคว้าแชมป์แรกกับรายการคาราบาว คัพ และเกมที่เราชนะเอฟเอ คัพ รอบชิงชนะเลิศกับ ลิเวอร์พูล เมื่อปีที่แล้ว”

“แต่ผมอยากจะบอกว่าช่วงเวลาที่ผมภูมิใจที่สุดกับสโมสรแห่งนี้คือการเริ่มต้นได้ไม่ดีเท่าไร การไม่ได้ลงเล่นบ่อยนัก และนั่นทำให้ผมต้องต่อสู้เพื่อตำแหน่งของตัวเองในทีม”

“ฟังนะ หลายคนอาจจะชอบหรือไม่ชอบสไตล์การเล่นของผมก็ได้ แต่เขาไม่สามารถพูดว่าผมไม่ทุ่มเทอะไรเลยให้กับสโมสร ถึงผมไม่ได้ลงสนามไม่ใช่ว่าผมไม่รู้สึกว่าทีมเป็นอย่างไร นั่นคือสิ่งที่ผมพยายามถ่ายทอดจากตัวเอง เพื่อนร่วมทีม และแฟนๆ เสมอ

“ดังนั้นนี่คือช่วงเวลาที่ผมภูมิใจที่สุดจนถึงตอนนี้ คือการบอกว่าผมต่อสู้เพื่อตำแหน่งของตัวเองในทีมและพยายามทำผลงานให้สม่ำเสมอมากขึ้น”

นอกจากนี้ ดิโอโก้ ดาโลต์ ยังเชื่อมั่นในการคุมทีมของ รูเบน อโมริม ว่าสามารถพาทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กลับมาคว้าแชมป์พรีเมียร์ ลีก ได้แต่อาจยังต้องใช้เวลา

"ผมคิดว่าเราสามารถคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้กับ รูเบน อโมริม แต่ในขณะเดียวกัน เราต้องสร้างสภาพแวดล้อมที่ผู้จัดการทีมมี ให้ทุกอย่างพร้อมสำหรับสิ่งที่เขาต้องการจากนักเตะ เราต้องปรับตัวให้เข้ากับระบบด้วย มันต้องใช้เวลาสักพัก"

"แน่นอนว่าเราไม่สามารถคิดล่วงหน้าได้มากเกินไป แต่ผมเชื่อจริงๆ ว่าวิธีที่เขาแสดง วิธีที่เขาสื่อสารกับนักเตะ ความคิดที่เขามี... เราทำได้ แม้ตอนนี้จะกลายเป็นส่วนที่ยากที่สุด แต่ด้วยความซื่อสัตย์และมองโลกในแง่ดี ผมคิดว่าเราสามารถคว้าถ้วยรางวัลใหญ่ๆ ได้กับผู้จัดการทีมคนนี้”

 

Author

ทรงวุฒิ อุ่นบริบูรณ์

ผู้ชื่นชอบการออกกำลังกายและหลงใหลในมนต์เสน่ห์ของรถยนต์จากโมเดล

Graphic

ปฐวี ยอดเนียม

Man u is No.2 But YOU is No.1