ชื่อของ พินิจ หรือ พอลลีน งามพริ้ง เป็นที่คุ้นหูของแฟนบอลไทย เนื่องจากเป็นอดีตแกนนำกลุ่ม “เชียร์ไทยเพาเวอร์” ที่ตามเชียร์ ทีมชาติไทย ในทุกนัดที่ลงสนาม
ล่าสุด พอลลีน เตรียมกลับเข้าสู่วงการอีกครั้ง เมื่อเจ้าตัวโพสต์ข้อความผ่านเฟสบุ๊คของตัวเองว่ากำลังศึกษาความเป็นไปได้ในการลงสมัครรับเลือกตั้งนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ที่จะมีขึ้นในเดือน เม.ย.67
“ทนมานานกับพวกที่ปู้ยี่ปู้ยำกับฟุตบอลไทย มาดามแป้งจะลงหรือไม่ลงก็อีกเรื่องนึง เหลือเวลา อีก 10 เดือน ขณะนี้ "มาดามป้อ" ศึกษาความเป็นไปได้ ในการลงสมัครนายกสมาคมฟุตบอลฯ สมัยหน้า โดยมีเป้าหมายคือ หาเงินให้สโมสรสมาชิก ไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อน เปิดตลาดใหม่ๆ และผลงานฟุตบอลไทยแถวหน้าของเอเชีย”
“ขณะนี้ตั้งทีมงานคุณภาพเริ่มทำงานศึกษารายละเอียด ใช้ความรู้และประสบการณ์ที่หลากหลายให้เกิดประโยชน์กับส่วนรวม”
นอกจากนั้นยังประกาศนโยบายผ่านแนวคิด Football Transformation ประกอบด้วย
1.ปราศจากผลประโยชน์ทับซ้อนทุกประการ มีความรัก และความรู้ฟุตบอลในทุกมิติ
2.เพิ่มรายได้ จัดหา และดูแลผลประโยชน์ และการตัดสินให้กับทุกสโมสรอย่างเท่าเทียม ไม่มีขั้วอำนาจ
3.มีความคิดสร้างสรรค์ ขยายตลาด กลุ่มผู้ชม และผู้สนับสนุนฟุตบอลให้กว้างขวางกว่าเดิม
4.ฟุตบอล 360 องศา สร้างสรรค์เกมฟุตบอลให้ตื่นตาตื่นใจ และมีผลสำเร็จด้านความเป็นเลิศ
5.ร่วมมือรัฐบาลพัฒนาเยาวชน ผ่านกลไกสโมสร เพิ่มจำนวนนักฟุตบอลเยาวชน สู่อาชีพให้มากกว่าที่เป็นอยู่
6.ช่วยสโมสรพัฒนาช่องทางสื่อสารการตลาดแบบออนไลน์
7.พัฒนาสนามและสาธารณูปการที่เกี่ยวกับฟุตบอลให้ได้มาตรฐาน พร้อมใช้อยู่ตลอดเวลา ขอสิทธิประโยชน์ส่งเสริมจากภาครัฐ
ทั้งนี้ คุณสมมบัติของผู้สมัครจะต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้าม ดังต่อไปนี้
1.มีอายุไม่ต่ำกว่า 25 ปีบริบูรณ์และไม่เกิน 70 ปีบริบูรณ์ ในวันเลือกตั้ง
2.ต้องเป็นผู้มีความรู้และประสบการณ์ในกีฬาฟุตบอลอย่างแท้จริง
3.ไม่เป็นบุคคลล้มละลาย หรือเคยเป็นบุคคลล้มละลายทุจริต
4.ไม่เป็นคนไร้ความสามารถหรือคนเสมือนไร้ความสามารถ
5.ไม่เคยได้รับโทษคดีอาญา โดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุกเว้นแค่เป็นโทษสำหรับความผิดที่ได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ
6.ไม่เคยถูกนายทะเบียนสั่งให้พ้นตำแหน่งกรรมการสมาคม ตามมาตรา 86 (4) แห่ง พรบ.การกีฬาแห่งประเทศไทย เว้นแต่จะพ้นกำหนด 5 ปีนับตั้งแต่วันที่ถูกสั่งให้พ้นจากตำแหน่ง
7.ต้องไม่เคยกระทำการอันใดอันก่อให้เกิดความเสียหายแก่สมาคม
8.ต้องไม่เคยกระทำการหรืองดเว้นการทำการในการปฏิบัติหน้าที่ จนทำให้เสื่อมเสียประโยชน์ของสมาคม
9.ต้องไม่เคยกระทำการทุจริตต่อสมาคม
10.ต้องไม่เคยถูกสมาคมฟ้องร้อง ไม่ว่าฐานความผิดใดและไม่ว่าศาลจะได้มีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้วหรือไม่ก็ตาม
11.ต้องไม่เคยถูกลงโทษห้ามยุ่งเกี่ยวกับวงการกีฬาฟุตบอลจากสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ สมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียหรือสหพันธ์ฟุตบอลอาเซียน