Feature

เบนจามิน เซสโก้ : กองหน้าแบบไหน ใช่คนที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ต้องทุ่มทันทีหรือเปล่า ? | Main Stand

“แมนฯ ยูไนเต็ดกำลังทุ่มอีกครั้งกับกองหน้าดาวรุ่งวัย 22 ปีที่ชื่อว่า เบนจามิน เซสโก้ ... แต่คำถามคือ นี่คือ ‘ฮาลันด์คนต่อไป’ หรือ ‘ฮอยลุนด์ภาคสอง’?”

 

เราจะลองวิเคราะห์จากสิ่งที่เขาทำในฤดูกาล 2024-25 กับ ไลป์ซิก ... และสิ่งที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ขาดหายในซีซั่นที่ผ่านมา ไปจนถึงการเปรียบเทียบกับเป้าหมายของ ปีศาจแดง คนอื่น ๆ เพื่อหาคำตอบนี้ 

 

เซสโก้ เวอร์ชั่น 2024-25 

ฤดูกาล 2024-25 กับ แอร์เบ ไลป์ซิก ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่ เบนจามิน เซสโก้ ท็อปฟอร์มที่สุดในอาชีพของเขาด้วยวัย 22 ปี มีหลายอย่างที่เขาพัฒนาขึ้นมาก และแน่นอนว่ายังมีบางส่วนที่เขายังต้องพัฒนาขึ้นอีกเพื่อจะเป็นกองหน้าชั้นยอดของยุคสมัย 

คาร์ล อันก้า นักข่าวสาย แมนฯ ยูไนเต็ด ของ The Athletic ลงลึกกับการศึกษาการเล่นของ เซสโก้ ในซีซั่นที่แล้ว และสรุปใจความสั้น ๆ ที่จะอธิบายให้เห็นภาพการเล่นของ เซสโก้ ว่า "ตัวใหญ่ ยิงแรง และมีพละกำลัง-ความเร็วเหมือนกับรถสปอร์ตที่พวงมาลัยพัง"

ข้อดีที่ อันก้า บอกมาจากประโยคสรุปด้านบท ทำให้เราได้เห็นว่า เซสโก้ คือดาวยิงสายพลังเต็มตัว โดดเด่นในเรื่องนี้มากที่สุด ในปี 2025 เจ้าของความสูง 195 เซนติเมตร พัฒนาเรื่องการจบสกอร์ของตัวเองขึ้นมาอีกระดับ นอกจากความหนักหน่วงแล้ว สิ่งที่เพิ่มขึ้นมาจากปีก่อน ๆ ก็คือทักษะการจบสกอร์ในหลากหลายพื้นที่ (Shot Map หลากหลาย)

โดยจุดที่เขายิงประตูได้ในซีซั่น 2024-25 ค่อนข้างหลากหลาย มีทั้งประตูจากนอกกรอบเขตโทษ ไปจนถึงเข้าชาร์จในกรอบ 6 หลา ซึ่งแต่ละประตูที่ยิงได้ก็มาจากการสัมผัสที่หลากหลาย ทั้งการโหม่ง การยิงด้วยเท้าซ้ายและขวา นอกจากนี้ยังมีลูกยาก ๆ ในแบบที่ต้องใช้สัญชาตญาณกองหน้าให้เห็น ทั้งการกระโดดยิง หรือการพุ่งตอร์ปิโดโหม่ง ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเขาเป็นเบอร์ 9 โดยสัญชาตญาณในเวลานี้

เพียงแต่ว่าความเฉียบขาดของเขานั้นยังไม่ได้อยู่ในระดับที่ง้างเป็นเข้าขนาดนั้น กล่าวคือ เซสโก้ ยังมีลูกหมูหกจากจังหวะหลุดเดี่ยว และการเข้าชาร์จในกรอบ 6 หลาเป็นระยะ ๆ เขายังขาดความเนียนและหลากหลายในจังหวะสุดท้าย หลายครั้งที่เขาพยายามยิงแบบเต็มข้อซึ่งเป็นอาวุธหลักของเขา แต่ก็ทำให้คู่แข่งมีเวลาเข้าบล็อกลูกยิงมากขึ้น เช่นเดียวกับการง้างเท้าที่เน้นความหนักของเขา ทำให้ผู้รักษาประตูอ่านทางการยิงของเขาได้ ... เรียกได้ว่าลูกจบแบบคม ๆ เนียน ๆ เช่นการเอี้ยวตัวยิงมุมกว้างแบบที่ เธียร์รี่ อองรี หรือศูนย์หน้าชั้นยอดมักจะทำให้เห็น ยังเป็นสิ่งที่ เซสโก้ ไม่สามารถทำได้เนียนตาพอในเวลานี้

หากนับแต่เรื่องการจบสกอร์ อันก้า พยายามสรุปให้เห็นภาพว่า "ถ้าจะเปรียบเทียบกับ เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ ก็ไม่น่าเกลียดนัก แต่ เซสโก้ ยังไปไม่ถึงระดับนั้น และยังมีความดิบที่ต้องถูกพัฒนาขึ้นอีกพอสมควรเพื่อก้าวขึ้นไปอยู่ในระดับท็อป" 

นั่นคือในส่วนของการยิงประตู แต่ยังไม่หมดแค่นั้น ตามรายงานยังบอกเพิ่มเติมว่า เซสโก้ เป็นนักเตะที่พัฒนาขึ้นในเรื่องของการถอยต่ำลงมาเล่นกับเพื่อนร่วมทีม เว็บไซต์หลักของ Bundesliga เคยอธิบายถึงจุดนี้ว่า "เซสโก้ เริ่มเรียนรู้การถอยลงมาต่ำเพื่อเชื่อมเกมกับตำแหน่งอื่น ๆ แม้ว่าจะยังไม่ถึงขั้นที่เนียนตาในระดับ อเล็กซานเดอร์ อิซัค หรือ แฮร์รี่ เคน แต่เขาก็มีพัฒนาการที่น่าสนใจ" 

ถ้าจะถามว่า ยูไนเต็ด ควรจ่ายเงินราว ๆ 80-90 ล้านยูโร เพื่อคว้าตัวเขามาร่วมทีม ณ ตอนนี้หรือไม่ ก็ควรต้องทบทวนดูให้ชัดว่า ณ ตอนนี้ แมนฯ ยูไนเต็ด ขาดอะไร และตัวเลือกอีกคนที่สื่อบอกว่าตีคู่มากับ เซสโก้ อย่าง โอลลี่ วัตกิ้นส์ กองหน้าจาก แอสตัน วิลล่า เมื่อเอามาเทียบกันเพื่อหาสิ่งที่ ยูไนเต็ด ขาด ...ว่าง่าย ๆ ก็คือเขาดีกว่า วัตกิ้นส์ ตรงไหนบ้าง ? 

 

เซสโก้ มีอะไรแตกต่างกับ วัตกิ้นส์ ?

รายละเอียดของ เซสโก้ เราได้เห็นตามบทวิเคราะห์ด้านบนไปแล้ว ทีนี้เรามาดูในส่วนของ วัตกิ้นส์ บ้าง ซึ่งก็เป็นนักเตะที่เชื่อว่าคงไม่ต้องอธิบายกันเยอะ เพราะคนที่ดูพรีเมียร์ลีกประจำคงได้เห็นอยู่แล้วว่าเขาโดดเด่นอะไรบ้าง 

วัตกิ้นส์ เป็นกองหน้าในสไตล์ที่ตรงไปตรงมาไม่ต้องตีความเยอะ เพราะทุกคนรู้ว่าจะได้อะไรเมื่อมีเขาเป็นกองหน้าของทีม ... นี่คือนักเตะที่วิ่งไล่บอลในแดนบนที่เก่งที่สุดในพรีเมียร์ลีกซีซั่น 2024-25 เป็นคนที่ทำให้กองหลังคู่แข่งไม่กล้าดันขึ้นสูง และบีบให้กองหลังคู่แข่งต้องเล่นยากขึ้นจากการเพรสซิ่งของเขา

ส่วนในเรื่องของบทบาทกองหน้าหลัก ๆ วัตกิ้นส์ สามารถทำได้ทุกอย่าง ทั้งการเก็บบอล พาบอล หาจังหวะยิงประตู และต่อเกมกับเพื่อนร่วมทีม แม้ทักษะที่กล่าวมาของเขาจะไม่ได้อยู่ในกลุ่ม "ความสามารถระดับท็อป" แต่ วัตกิ้นส์ ก็ครบเครื่องในระดับหนึ่ง  ไม่ใช่แค่ยิงประตูและทำลายเกมรุกคู่แข่งตั้งแต่การบิลด์อัพบอลจากแดนหลัง แต่การขยับตัวออกจากตำแหน่งทั้งซ้าย-ขวา หน้า-หลัง ของเขา ช่วยเปิดพื้นที่ให้นักเตะตัวรุกของทีมคนอื่น ๆ ได้จังหวะสอดเข้ามาทำประตูเพิ่มด้วย 

สำหรับ ยูไนเต็ด การซื้อ วัตกิ้นส์ นับว่ามีความเสี่ยงน้อยกว่า เซสโก้ เนื่องจากช่ำชองและรู้จักฟุตบอลอังกฤษเป็นอย่างดี และแสดงให้เห็นมาแล้วแบบไม่ต้องลุ้นต่อว่าเขาทำอะไรได้บ้าง เพียงแต่ว่าอุปสรรคคือ แอสตัน วิลล่า ไม่ต้องการขาย และยูไนเต็ดก็ไม่อยากจ่ายแพงเกินไป มีรายงานว่าเคยตั้งราคาไว้ถึง 60 ล้านปอนด์สำหรับนักเตะที่ย่างเข้าเลข 3 อีกไม่กี่เดือน 

แม้จะดูเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า เซสโก้ ในแง่ของคุณภาพและการใช้งานได้ทันที แต่ถ้า ยูไนเต็ด ซื้อวัตกิ้นส์ในวันนี้ อีก 2 ปีพวกเขาก็อาจต้องซื้อกองหน้าใหม่อีกคนอยู่ดี เรื่องมันอาจจะคล้าย ๆ ตอนคว้า กาเซมิโร่ มาอย่าง เรอัล มาดริด ที่พีกแค่ปีเดียว จากนั้นมาปัญหาแดนกลางก็ยังคงอยู่ไม่เปลี่ยนแปลง

ด้วยแนวคิดนี้ทำให้ชวนคิดว่า ในยุคที่ ยูไนเต็ด ต้องการถ่ายเลือดและสร้างทีมใหม่ เมื่อพิจารณาโดยรวมแล้ว การซื้อเซสโก้อาจเป็น “ซื้อครั้งเดียว จบ” หากเขาประสบความสำเร็จ ... แต่แน่นอนว่าในโลกฟุตบอลไม่มีอะไรคาดเดาได้ง่าย ๆ จน เซสโก้ หรือ วัตกิ้นส์ จะได้ย้ายมาอยู่กับ ยูไนเต็ด และแสดงผลงานออกมาให้เป็นที่ประจักษ์แก่สายตาเราเอง 

และถ้จะไปให้ลึกกว่านั้น เราจะลองจินตนากาารว่าหากที่สุดแล้ว เซสโก้ มาเป็นนักเตะของ แมนฯ ยูไนเต็ด ตามข่าว ... อะไรคือสิ่งที่ต้องระวัง และมีปัจจัยใดบ้างที่อาจจะทำให้เขาอาจจะไม่ปังเหมือนที่หลายคนคิดไว้ 

 

เบอร์ 9 ใหม่จะช่วย ยูไนเต็ด ได้จริงหรือ ?

ไม่มีแฟนแมนฯ ยูไนเต็ด คนไหนที่อยากจะทนใช้งาน ราสมุส ฮอยลุนด์ และ โจชัว เซิร์กซี ในฐานะตัวจบสกอร์ไปจนจบซีซั่นแน่นอน ... เพียงแต่ว่าในกรณีที่ได้ตัว เซสโก้ มา เขาก็มีเรื่องที่ชวนให้เป็นห่วงเช่นกัน 

หากแมนฯ ยูไนเต็ดได้ตัวกองหน้าคนใหม่ จะถือเป็นการเซ็นเบอร์ 9 "3 ฤดูกาลติด" (รวม เวาต์ เวกฮอร์สต์ ที่ยืมตัวมาช่วงต้นปี 2023) ปัญหาคือ พวกเขายังไม่สามารถเจอนักเตะที่ “ลงล็อก” เลย 

ตำแหน่งนี้เป็นจุดอ่อนของยูไนเต็ดมาหลายปี ดังนั้นการที่มีชื่อทั้งเซสโก้, วัตกิ้นส์ หรือแม้กระทั่ง เลียม ดีแลป ในลิสต์ แสดงถึงความหลากหลายและการพยายามแก้ปัญหา อย่างไรก็ตามในอีกแง่หนึ่งก็อาจหมายถึงความไม่ชัดเจนในการวางแผนในการเสริมทัพได้เช่นกัน

อีกปัญหาคือ ระบบโดยรวมของยูไนเต็ดยังไม่สนับสนุนกองหน้าให้โชว์ของได้เต็มที่ จากที่เราเห็น ๆ กันมาตลอด 2-3 ปีหลัง ปัญหามากมาย อาทิ แดนกลางผ่านบอลไม่ลื่นไหล เสียบอลง่าย, เกมริมเส้นขาดจังหวะทะลุทะลวงและความแม่นยำในพื้นที่สุดท้าย ไปจนถึงการเพรสซิ่งไม่ต่อเนื่อง ไม่พร้อมเพรียง ทำให้ทีมเสียประตูได้ง่าย ๆ แพ้ตั้งแต่การไล่บอลแดนบน

จากปัญหาที่ทั้งหมดที่กล่าวมา ทำให้หน้าที่ของกองหน้าแมนฯ ยูไนเต็ด ณ ตอนนี้ไม่ใช่แค่ “ยิงประตู” อย่างเดียว อาจจะต้องอาศัยการเล่นร่วมกันกับเพื่อนร่วมทีม การถอยลงต่ำเป็นตัวเปิดทาง และเป็นคนที่ยอมทำงานที่เหนื่อยที่สุดนั่นคือเป็นคนที่ออกตัวไล่แย่งบอลเป็นคนแรก จากจุดนี้ การได้ตัว เซสโก้ อาจช่วยบางอย่างได้ แต่ไม่ใช่คำตอบสุดท้าย เพราะ รูเบน อโมริม และทีมซื้อขายยังมีงานอีกเยอะให้ต้องทำ

แม้การมาของ เซสโก้ จะแก้ปัญหาทุกอย่างไม่ได้ แต่ด้วยคุณภาพที่เขามีค่อนข้างตรงรุ่น ตั้งแต่การพัก-พิง-ค้ำ, การถอยต่ำลงมาล้วงบอล ไปถึงการหาจังหวะจบสกอร์ ... นี่คือนักเตะที่จะสามารถช่วยเกมรุกของ ยูไนเต็ด ได้แน่ แต่จะดีจนเนียนตาไม่ต้องหาคนใหม่มาเพิ่มได้แค่ไหน เราคงจะได้รู้กันในตอนที่เขาเกิดย้ายทีมขึ้นมาจริง ๆ แล้วเท่านั้น 

แต่เชื่อเหลือเกินว่านาทีนี้ชื่อของ เบนจามิน เซสโก้ กลายเป็นชื่อที่แฟนแมนฯ ยูไนเต็ด เฝ้าฝันถึงแล้ว 

 

แหล่งอ้างอิง

https://www.nytimes.com/athletic/6521070/2025/07/30/manchester-united-sesko-watkins/
https://www.bundesliga.com/en/bundesliga/news/benjamin-sesko-interview-leipzig-title-chances-openda-nba-luka-doncic-slovenia-28900
https://onefootball.com/en/news/a-combined-xi-from-red-bulls-global-football-franchise-29612877
https://en.wikipedia.org/wiki/Benjamin_%C5%A0e%C5%A1ko
https://www.bundesliga.com/en/bundesliga/news/benjamin-sesko-who-is-rb-leipzig-new-striker-next-erling-haaland-23668
https://www.diesachsen.de/en/sports/dont-think-about-it-sesko-ignores-transfer-rumors-2988708?utm_source=chatgpt.com

Author

ชยันธร ใจมูล

นักเขียนลูกสอง จองเรื่องฟุตบอลและมวยโลก รู้จริงบ้าง ไม่จริงบ้าง แต่เขียนแล้วอินทุกเรื่อง

Photo

วัชพงษ์ ดวงแปง

Main Stand's Backroom staff

Graphic

อรรนพ สะตะ

graphic design ผู้ชื่นชอบกีฬาฮอกกี้, เกมส์, เดินเขา เป็นชีวิตจิตใจ