ก้าวแรกบนรายการระดับโลก
ในนาทีนี้ชื่อของ “บูม” กษิดิศ สำเร็จ นักเทนนิสของไทยกลายเป็นที่รู้จักของแฟนกีฬาลูกสักหลาดทั้งในประเทศไทยและทั่วโลก หลังเข้าร่วมการแข่งขัน ออสเตรเลี่ยน โอเพ่น 2025 ด้วยสิทธิ์ไวล์ดการ์ด กลายเป็นนักเทนนิสไทยคนแรกในรอบ 13 ปี ที่เข้าร่วมรายการนี้
ก่อนที่ บูม จะบินตรงไปยัง นครเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย เขาแบกความกดดันเอาไว้มากมาย ทั้งความหวังของแฟนกีฬาไทยนับล้านกับการไปแสดงศักยภาพของนักกีฬาไทย ความกดดันกับการดวลนักกีฬาอันดับ 5 ของโลกอย่าง ดานิล เมดเวเดฟ และอีกหนึ่งความหวังครั้งใหญ่กับการเรียกศรัทธาของกีฬาเทนนิสในประเทศไทยกลับมาอีกครั้ง
แต่ทันทีที่ บูม กำลังเดินลงสนามเพื่อเตรียมตัวแข่งขันแกรนด์ สแลม ครั้งแรกในชีวิต เขากลับดู นิ่ง สุขุม และไม่มีความกดดันทั้งสิ้น เพราะความรู้สึกเหล่านี้ถูกถ่ายทอดไปยังไดอารี่ส่วนตัว ที่คอยบันทึกความรู้สึกของเขา
ตลอดการแข่งขัน บูม กษิดิศ แสดงให้เห็นว่าแม้อันดับโลกของเขาจะอยู่ในอันดับที่ 414 ในขณะนั้น แต่เขาไม่มีความเกรงกลัวและตอบโต้ เมดเวเดฟ ได้อย่างสูสีและมีโอกาสขึ้นนำ 2-1 เซต จนต้องยื้อการแข่งขันออกไปได้ถึง 5 เซต ด้วยกัน
การแข่งขันในวันนั้นเป็นหนึ่งในเกมที่เรียกศรัทธาของแฟนเทนนิสไทยกลับมาได้ไม่มากก็น้อย และถึงแม้เจ้าตัวจะจบเส้นทางการแข่งขัน ออสเตรเลี่ยน โอเพ่น ด้วยความพ่ายแพ้ 2-3 เซต (2-6, 6-4, 6-3, 1-6, 2-6) แต่เชื่อว่า บูม กษิดิศ ชนะใจแฟนกีฬาของไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“ผมอยากให้กีฬาเทนนิสกลับมาดังอยู่แล้ว เรารู้สึกว่าพอได้ไป แกรนด์ สแลม แล้วกลับมามีคนสนใจมากขึ้น รู้สึกว่านี่เป็นอีกเป้าหมายหนึ่งของผมที่อยากทำให้เทนนิสกลับมาดังอีกครั้ง แล้วมันก็สำเร็จครับ”
“ผมเห็นหนึ่งคอนเมนต์เขาบอกว่า ไม่ได้ดูเทนนิสเลยตั้งแต่ยุค ภราดร (ภราดร ศรีชาพันธุ์) ตั้งแต่ 13 ปีที่แล้ว ผมรู้สึกว่าพอเห็นคอมเมนต์นี้ก็ดีใจเหมือนกันครับที่มีคนหันมาสนใจเทนนิสมากขึ้น” บูม กษิดิศ เผย
หนึ่งในความตั้งใจของ บูม กษิดิศ จะสำเร็จไปในขั้นแรก หลังจากชื่อของนักกีฬาไทยห่างการพูดถึงและไม่มีนักเทนนิสไทยเข้ามาแข่งในรายการแกรนด์ สแลม เลย แต่นั่นก็เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเล็กๆ เท่านั้น เพราะว่านักเทนนิสวัย 23 ปียังมีเป้าหมายที่มองไปไกลกว่าเดิม
กำแพงก้าวข้ามคอร์ดดิน - สู่เป้าวิมเบิลดัน
การได้เข้าร่วมการแข่งขัน แกรนด์ สแลม ครั้งแรกในชีวิตเป็นสิ่งจุดประกายให้ บูม ตั้งเป้าหมายติดอันดับแร็งกิ้ง 200 ของโลก เพื่อเข้าร่วมรายการแกรนด์ สแลม ระดับโลกให้ได้อีกครั้งอย่างวิมเบิลดัน , ยูเอส โอเพ่น
“ผมได้คุยกับทีมโค้ชไว้แล้ว และเริ่มวางแผนว่าจะออกไปแข่งแมตช์ต่างๆ และทำให้ได้ตามเป้าหมายเพื่อเข้าไปเล่นในรายการใหญ่ได้ และไล่ระดับแร็งค์ขึ้นไปเรื่อยๆครับ”
บูม เดินตามเส้นทางที่ตัวเองวางเป้าหมายไว้อย่างมีแบบแผนและระมัดระวังมากขึ้น ทั้งความพยายามในการปรับปรุงตังเองทุกๆด้าน ทั้งความพร้อมทางร่ายกาย จิตใจ โภชนาการ และ การพักผ่อน
“จริง ๆ ก่อนหน้านี้ดูแลตัวเองไม่ค่อยดีเลย และเริ่มมาปรับเปลี่ยนจัดอันดับว่าสิ่งไหนสำคัญสำหรับเรา ผมพยายามคิดถึงเริ่มตรงนั้นมากขึ้น ซึ่งมันก็เห็นผล ผมพยายามที่จะปรับเรื่องการนอน เพราะที่ผ่านมามีนอนดึกบ้าง เล่นเกมบ้าง จนต้องเริ่มปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของตัวเองหลายๆอย่าง มีวินัยมากขึ้น ทานอาหารที่มีประโยชน์มากขึ้น”
อย่างไรก็ตามเป้าหมายของ บูม กษิดิศ ไม่ง่ายอย่างที่คิดเนื่องจากรายการแข่งขันเทนนิสทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศที่มีการเก็บแร็งกิ้งไต่อันดับ เป็นรูปแบบการแข่งขันแบบคอร์ดดินและคอร์ดหญ้า
ซึ่งสภาพสนามเช่นนี้ถือว่าเป็นของแสลงและเปรียบเสมือนกำแพงสำหรับนักเทนนิสไทยที่ต้องก้าวข้ามไปให้ได้ เช่นเดียวกับ “บูม” กษิดิศ สำเร็จ อย่างเช่นการแข่งขัน เดวิส คัพ ที่ประเทศไซปรัส เจ้าภาพจัดให้เล่นบนคอร์ดดิน
“คอร์ดดินอาจจะไม่ใช่พื้นผิวที่ผมถนัดที่สุด เพราะว่าเป็นสนามที่ต้องเน้นการเคลื่อนที่เยอะ ความอดทน แต่ถ้าเป็นคอร์ดหญ้า ยังไม่เคยลอง แต่คิดว่าอาจจะเหมาะในสไตล์ของผม เพราะอาจจะเป็นเกมเร็ว ซึ่งผมอยากลองมากถ้ามีโอกาสได้ไปเล่นที่ วิมเบิลดัน จะเป็นอย่างไร คิดว่า 2 พื้นผิวนี้มีความน่าสนใจในส่วนของมัน”
ข้อจำกัดเช่นนี้กลายเป็นความท้าทายของ บูม กษิดิศ ที่ต้องข้ามผ่านไปให้ได้หากยังมีเป้าหมายในการเข้าร่วมการแข่งขัน แกรนด์ สแลม ระดับโลกอีกครั้ง
อุปกรณ์ดี อีกปัจจัยสู่ความสำเร็จ
สิ่งที่ทำให้ บูม สามารถต่อกรกับคู่แข่งได้ในทุกสภาพสนามคงหนีไม่พ้นอุปกรณ์ประสิทธิภาพสูง ซึ่งในกีฬาเทนนิสเครื่องแต่งกายและรองเท้าถือเป็นส่วนประกอบสำคัญอย่างมาก
กษิดิศ สำเร็จ เผยว่าเขาเลือกสวมใส่อุปกรณ์กีฬาจาก ASICS แบรนด์อุปกรณ์กีฬาจากประเทศญี่ปุ่นตั้งแต่เริ่มต้นการแข่งขันอาชีพเมื่ออายุ 18 ปี เนื่องจากเป็นแบรนด์ที่ครบเครื่องและตอบโจทย์การแข่งขัน ก่อนจะได้รับการเซ็นสัญญาเป็นนักกีฬาในสังกัดและร่วมงานกันอย่างเป็นทางการ
แน่นอนว่ากีฬาเทนนิสเป็นหนึ่งกีฬาที่อาศัยการเคลื่อนที่และทางแบรนด์ยังออกแบบรองเท้าเพื่อตอบโจทย์กีฬาชนิดนี้โดยเฉพาะซึ่ง บูม ยังยกให้รองเท้าของแบรนด์เป็นหนึ่งในอุปกรณ์ชิ้นสำคัญที่มีส่วนช่วยขณะแข่งขัน
“อุปกรณ์มีส่วนสำคัญมาก ๆ ครับ เพราะผมคิดว่าถ้าเรามีอุปกรณ์ซัพพอร์ตที่ดีมันช่วยลดทอนความเหนื่อยล้าไปได้ รวมถึงเพิ่มความได้เปรียบเสียเปรียบตอนแข่งขันด้วย”
“จุดเด่นที่สุดผมยกให้เป็นรองเท้าครับ ผมยกให้รองเท้าของ ASICS เป็นรุ่นท็อปๆหรืออันดับหนึ่งเลยก็ได้ รองเท้าของแบรนด์ดีมากๆ ส่วนตัวผมใส่รุ่น ASICS Solution Speed FF 3 เป็นรุ่นที่เบามากๆ จนผมรู้สึกว่าตัวเองวิ่งเร็วขึ้นด้วย มันทำให้ผมได้เปรียบในหลายๆครั้งและทำให้ผมแสดงศักยภาพของตัวเองออกมาได้เต็มที่ด้วย”
สำหรับรองเท้ารุ่น ASICS Solution Speed FF 3 ที่ กษิดิศ สำเร็จเลือกใช้นั้น โดดเด่นในเรื่องน้ำหนักเบาช่วยให้นักกีฬาเคลื่อนไหวได้รวดเร็วขึ้น ด้วยเทคโนโลยี SPEEDTRUSS และยังผลิตด้วยผ้าตาข่ายและฟิล์มส่วนบนที่ผ่านการออกแบบทางวิศวกรรมแบบใหม่
เชื่อว่าอุปกรณ์ที่ดีจะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้ บูม กษิดิศ สำเร็จ ทำตามเป้าหมายสุดยิ่งใหญ่ในปีนี้ได้อย่างแน่นอน อย่าลืมส่งกำลังใจและเอาใจช่วยนักเทนนิสชาวไทยกับภารกิจไต่แรงกิ้งอันดับที่ 200 ของโลกให้ “สำเร็จ” เหมือนนามสกุลของเขา
