การเปรียบเทียบระหว่างยอดนักกีฬา คือสิ่งที่เกิดขึ้นเสมอ ไม่เว้นแม้แต่ในวงการรถสูตรหนึ่ง
และ ริชาร์ด ฮอปกิ้นส์ อดีตหัวหน้าแผนกปฏิบัติการของ Red Bull Racing ผู้เป็นเพื่อนกับ มิชาเอล ชูมัคเกอร์ ตำนานนักแข่งแชมป์โลก 7 สมัย เปิดเผยกับ SPORTbible ถ้ามองเฉพาะนักแข่งบนกริด F1 ตอนนี้ มักซ์ เวอร์สแตพเพ่น แชมป์โลก 4 สมัยชาวดัตช์ มีความใกล้เคียงกับ "ชูมี่" มากที่สุด และหากทั้งคู่อยู่ร่วมสมัย เป็นทีมเมตกัน น่าจะเกิดเรื่องชวนปวดหัวแน่ ๆ
"มักซ์กับมิชาเอล พวกเขาคล้ายกันมาก น่าจะคล้ายกันที่สุดบนกริดตอนนี้เลยก็ว่าได้"
"นักขับมืออาชีพทุกคนอยากจะแข่งขันกับคนที่ดีที่สุด เพราะนั่นคือวิธีวัดฝีมือตัวเอง นั่นเป็นเหตุผลที่การแข่งขันกันเองในทีมมีความสำคัญ เพราะคุณอยู่ในรถแข่งที่เท่าเทียมกัน และนั่นคือวิธีตัดสินประสิทธิภาพ"
"การเอามิชาเอลและมักซ์มาอยู่ในรถคันเดียวกัน แล้วดูพวกเขาแข่งขันกันคงเป็นอะไรที่น่าทึ่ง มักซ์เป็นนักขับที่ดีที่สุดในกริดตอนนี้ เขาไม่ได้แชมป์ในปีนี้ก็จริง แต่ก็พยายามอย่างเต็มที่แล้ว"
"มีนักแข่งหลายคนที่เคยคว้าแชมป์ แต่เรากลับจำช่วงเวลาเหล่านั้นไม่ได้ แต่สำหรับมักซ์และมิชาเอล ช่วงเวลาเหล่านั้นยังแจ่มชัด การที่พวกเขาแข่งขันกันในทีมเดียวกันย่อมสร้างความดุเดือดได้แน่นอน"
"แต่ผมก็คิดว่าพวกเขาคงมีเรื่องบาดหมางกันเองแน่ ๆ คุณคงไม่อยากเป็นหัวหน้าทีมหรอก เพราะคงเป็นเรื่องยากที่จะจัดการเรื่องนี้"
มิชาเอล ชูมัคเกอร์ เลิกแข่ง F1 ครั้งแรกเมื่อปี 2006 ก่อนกลับมาในปี 2010 และเลิกถาวรในปี 2012 ทว่าช่วงปลายปี 2013 เจ้าตัวประสบอุบัติเหตุระหว่างเล่นสกีกับครอบครัว
นับจากอุบัติเหตุดังกล่าว ชูมัคเกอร์ไม่เคยปรากฏตัวต่อสาธารณะอีกเลย และมีน้อยคนมากที่สามารถเข้าถึงตัวของเขาได้ ซึ่งทำให้ ริชาร์ด ฮอปกิ้นส์ อดเสียดายไม่ได้ว่า หากชูมี่ปรากฏในซีรี่ส์อย่าง Formula 1: Drive to Survive คงได้เห็นภาพเขาในแง่มุมที่ต่างออกจากจากสมัยแข่งขัน
"ผมคิดนะ ว่ามิชาเอลจะเป็นอย่างไรในยุคของ Netflix และ Drive to Survive ผมคิดว่ามันคงจะยอดเยี่ยมมาก เพราะที่ผ่านมา เราอาจไม่ได้เห็นอีกด้านหนึ่งของเขาอย่างเต็มที่"
"เวลาอยู่หน้ากล้อง เขาเป็นคนมีเสน่ห์ ยินดีให้สัมภาษณ์เสมอ ถ้าเขาชนะ เขาจะแสดงออกอย่างมั่นใจ ถ้าเขาแพ้ คุณก็จะได้เห็นอีกด้านหนึ่งของเขา นอกเหนือจากนั้น เหมือนกับคนหลาย ๆ คน เขาก็มีอีกด้านหนึ่ง"
"เมื่อเขาถอดหมวกกันน็อก ไม่ต้องแอ็คอาร์ตอะไร เขาเป็นคนดี เมื่อเขาใส่หมวกกันน็อก เขาเหมือนหลุดไปอีกมิติ เหมือนกับนักแข่งหลาย ๆ คน และบางครั้งมันก็รุนแรงมาก"
"เมื่อถอดหมวกกันน็อก มิชาเอลก็เป็นคนที่แตกต่างจากเดิม เขามีภรรยาที่ดี ครอบครัวที่ดี และเพื่อนที่ดี ถ้าเขาเป็นคนบัดซบอย่างสิ้นเชิง เขาคงไม่มีสิ่งเหล่านี้ เขามีความเป็นมนุษย์ นั่นเป็นเหตุผลที่น่าเสียดาย ที่เราไม่เคยเห็นเขาใน Drive to Survive"
"คนที่รู้จักเขาดีจะรู้ถึงด้านนั้นของเขา แต่คนนับล้านมองเขาในมิติเดียว ถ้าเป็นอย่างนั้น คุณคงได้เห็นมิติอื่น ๆ ของเขาแล้ว กับความเป็นมนุษย์ที่ดีคนหนึ่ง"
