
รูเบน อโมริม เฮดโค้ช แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เคยแสดงท่าทีแข็งกร้าวต่อการถูกวิจารณ์อย่างหนัก เกี่ยวกับการที่ไม่ยอมปรับเปลี่ยนระบบการเล่น ท่ามกลางผลงานที่ย่ำแย่ ทำให้ทีมของเขาจบอันดับที่ 15 ของพรีเมียร์ลีกเมื่อฤดูกาล 2024-25 โดยโค้ชชาวโปรตุกีสรายนี้ยืนกรานว่า จะเปลี่ยนก็ต่อเมื่อถึงเวลาที่เขาเลือกเองเท่านั้น แม้ว่านั่นอาจจะทำให้เขาต้องตกเก้าอี้ก็ตาม
ในฤดูกาล 2025-26 อโมริมนำทีมทำผลงานได้ดีขึ้น พร้อมยอมรับว่า จำนวนผู้เล่นที่มีให้เลือกใช้งานได้จำกัด บีบให้ต้องตัดสินใจในบางเรื่อง แต่โค้ชวัย 40 ปีรายนี้เชื่อว่า ตอนนี้ขุมกำลังของเขาพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงแล้ว เพราะนักเตะเข้าใจในปรัชญาของเขา
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยุค รูเบน อโมริม เริ่มใช้ระบบกองหลัง 4 ตัวเป็นครั้งแรกในเกมที่เอาชนะ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด วันบ็อกซิ่งเดย์ ซึ่งเป็นช่วงที่ขาดผู้เล่นตัวหลักไปหลายราย ทั้งจากอาการบาดเจ็บ และทัวร์นาเมนต์ แอฟริกา คัพ ออฟ เนชั่นส์ หลังจากที่มีสัญญาณบ่งบอกว่า ทีมเริ่มมีความยืดหยุ่นในการปรับเปลี่ยนรูปแบบการเล่นระหว่างเกมมากขึ้นในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา
โค้ชชาวโปรตุเกสให้สัมภาษณ์ก่อนเกมพรีเมียร์ลีกที่จะพบกับ วูล์ฟแฮมป์ตัน คืนนี้ (30 ธันวาคม) ว่า "เมื่อผมมาที่นี่เมื่อฤดูกาลที่แล้ว ผมเข้าใจดีว่าผมอาจจะไม่มีนักเตะที่เล่นเข้ากับระบบได้ดีนัก แต่มันคือจุดเริ่มต้นของกระบวนการ"
"เรากำลังพยายามสร้างเอกลักษณ์ขึ้นมา วันนี้เป็นช่วงเวลาที่แตกต่างออกไป เรามีผู้เล่นไม่มากนัก ดังนั้นเราจึงจำเป็นต้องปรับตัว แต่ผมทราบดีอยู่แล้วว่านักเตะเข้าใจว่าทำไมเราถึงต้องเปลี่ยนแปลง"
"มันไม่ใช่เพราะแรงกดดันจากนักข่าวหรือแฟนบอล แต่มันเป็นเพราะตอนนี้พวกเราเข้าใจวิธีการที่เราต้องการจะเล่นแล้ว และหลักการพื้นฐานยังคงเหมือนเดิม เราจึงสามารถเปลี่ยนระบบได้"
"ผมคิดว่าเรากำลังจะกลายเป็นทีมที่ดีขึ้น เพราะเมื่อผู้เล่นทุกคนกลับมา เราจะไม่เล่นด้วยกองหลังสามตัวตลอดเวลา เรากำลังจะพัฒนาขึ้น นั่นคือสิ่งที่ผมเคยพูดถึงไว้"
"แต่เมื่อนักข่าว พูดถึงเรื่องการเปลี่ยนระบบอยู่ตลอดเวลา ผมก็ไม่สามารถเปลี่ยนได้ เพราะเหล่านักเตะจะเข้าใจว่าผมเปลี่ยนมันเพราะพวกคุณ ซึ่งผมคิดว่านั่นคือจุดจบของคนเป็นผู้จัดการทีม"
"เมื่อเรากำลังเล่นได้ดีในระบบของเรา ผมคิดว่านั่นคือช่วงเวลาที่จะเปลี่ยน หากมันเป็นสิ่งที่ดีกว่าเพื่อที่จะชนะในเกมถัดไป นั่นคือสิ่งที่เราทำในเกมพบกับนิวคาสเซิล"