ในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ 2024-25 ที่ผ่านมา เห็นได้ชัดว่า มิเกล อาร์เตต้า กุนซืออาร์เซน่อล เลือกใช้งาน โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ น้อยลง ได้ออกสตาร์ตตัวจริงเพียง 5 เกมในลีก เพราะการขึ้นมาอย่างไฟลุกของ ไมล์ส ลูอิส สเคลลี่ แบ็กซ้ายดาวรุ่ง ยังไม่รวมถึงริคาร์โด คาลาฟิออรี ที่ “ปืนใหญ่” เสริมทัพเข้ามาในตำแหน่งใกล้เคียงกัน
ด้วยเหตุนี้ โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ จึงรู้สึกว่า ซีซัน 2024-25 เป็นฤดูกาลที่แย่ที่สุดในอาชีพค้าแข้งที่เขาเคยผ่านมา ก่อนจะเขียนลงไปในหนังสือ ‘Believe’ อัตชีวประวัติส่วนตัวระบายถึงเรื่องนี้ว่าส่งผลกระทบต่อจิตใจนักฟุตบอลคนหนึ่งมากแค่ไหน ในแง่จากการเป็นตัวจริงสู่การเป็นตัวสำรอง
“สถานการณ์ของผมมันไม่เหมือนปีก่อนหน้า อาการบาดเจ็บไม่ใช่สาเหตุเลย ผมมีแค่ปัญหาเล็กๆ น้อยๆ ที่น่องซึ่งทำให้ผมต้องพักยาวตลอดเดือนกันยายน เจ็บบ้างเป็นพัก ๆ แต่โดยรวมแล้วผมฟิตเกือบตลอดฤดูกาล”
“ผมแทบไม่ได้ออกสตาร์ตเป็นตัวจริงให้กับอาร์เซน่อลเลย ยกเว้นบางเกมที่มีการหมุนเวียนผู้เล่น ถ้าให้พูดกันตามตรง ส่วนตัวผมคิดว่าฤดูกาล 2024-25 เป็นฤดูกาลที่แย่ที่สุดที่ผมเคยเจอในฐานะนักเตะอาชีพ”
“นักฟุตบอลที่ไม่ได้ลงสนามมันไร้ค่าสิ้นดี ถ้าร่างกายไม่พร้อมแล้วไม่ได้ลงเล่นอันนี้ผมเข้าใจได้ แต่การเปลี่ยนบทบาทจากผู้เล่นตัวหลักในทีมไปเป็นตัวสำรองที่ไม่ได้ลงเล่นนั้นรับมือยากเกินไปสำหรับผม”
“ความรู้สึกถูกปฏิเสธเมื่อบอสไม่เชื่อใจคุณอีกต่อไป มันทำให้คุณหมดพลัง แม้ว่าคุณจะเป็นคนที่แข็งแกร่งและอดทนที่สุดในโลกก็ตาม”
“การนั่งสำรองในพรีเมียร์ลีกเพื่อแลกกับค่าเหนื่อยก้อนโตก็ยังถือเป็นสิทธิพิเศษ ผมคิดว่ามันคือปัญหาที่คนอีกหลายพันล้านคนบนโลกนี้ยอมแลกชีวิตที่ลำบากของพวกเขาได้ทันที เชื่อผมเถอะ ในฐานะคนยูเครน ผมรู้ซึ้งถึงเรื่องนี้ตลอดเวลา”
“แต่นักฟุตบอลทุกคนเริ่มเล่นเพราะรักในกีฬานี้ พลังชีวิตของคุณจะเหมือนถูกดูดออกไปหากไม่ได้ลงเล่น ลองจินตนาการถึงเด็กชายตัวน้อยที่ทุ่มเททั้งชีวิตเพื่อเก่งในสิ่งใดสิ่งหนึ่ง แล้วมารู้ตัวเอาตอนอายุ 28 ว่าเขาแทบจะไม่เป็นที่ต้องการอีกต่อไป เพราะมีคนอื่นที่สามารถทำหน้าที่นั้นแทนได้ มันไม่ใช่ความรู้สึกที่ดีเลย”
นอกจากนี้ โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ ยังเขียนถึงเกมหนึ่งที่ภรรยาและลูกสาวสองคนเดินทางมาชมการแข่งขันของอาร์เซน่อล ณ เอมิเรตส์ สเตเดียม แต่ปรากฏว่าแข้งชาวยูเครนไม่ได้ลงสนาม ซึ่งเขายอมรับว่าเจ็บปวดมาก ๆ
“ภรรยาของผมไม่อยากแสดงให้เห็นว่าเธอกำลังได้รับผลกระทบ เพราะกลัวว่าจะทำให้ผมรู้สึกแย่ลงกว่าเดิม แต่บางครั้งหน้ากากนั้นก็หลุดออกมา”
“เอวา ลูกสาวคนโต อายุสามขวบครึ่ง บอกกับเลอาว่า ‘ดูสิ นั่นพ่อ!’ เลอาหันมองไปทั่วสนาม แต่ก็ไม่เจอผม จากนั้นเอวาก็ชี้แล้วพูดว่า ‘ไม่ พ่อยังไม่ได้ลงเล่น เขานั่งอยู่บนม้านั่งสำรอง’”
“การได้ยินแบบนั้นทำให้ผมเจ็บปวดมาก มันทำให้ผมรู้สึกละอายใจ ผมรู้สึกดีมากที่ลูก ๆ ยังไม่ถึงวัยที่จะต้องเจอกับโลกโซเชียลมีเดีย และไม่ต้องอ่านเรื่องร้าย ๆ เกี่ยวกับพ่อของพวกเธอที่ไม่สามารถติดทีมอาร์เซน่อลได้อีกต่อไป”
…ต้องติดตามกันต่อไปว่า ฤดูกาล 2025-26 โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ จะกลับมามีบทบาทในทีมมากขึ้นหรือไม่?
