ยาสุฮิโตะ เอ็นโด อดีตมือฉมังลูกนิ่งของทีมชาติญี่ปุ่น ประกาศแขวนสตั๊ดแล้วด้วยวัย 43 ปี เมื่อวันที่ 9 มกราคมที่ผ่านมา โดยฝากผลงานกับทีมชาติญี่ปุ่นไว้ด้วยการลงเล่น 152 เกม พาทีมคว้าแชมป์เอเชียน คัพ 2 สมัย ในปี 2004 และ 2011 และติดทีมชาติลุยศึกฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย 3 สมัย ในปี 2006, 2010 และ 2014
ด้านกุนซือทีมชาติญี่ปุ่นคนปัจจุบันอย่าง ฮาจิเมะ โมริยาสุ ที่ตอนนี้กำลังเตรียมทีมลุยศึกเอเชียน คัพ 2023 ที่กาตาร์ ก็ออกมาพูดถึงสิ่งที่ ยาสุฮิโตะ เอ็นโด ได้ทำไว้ให้กับฟุตบอลญี่ปุ่น ตลอดอาชีพการค้าแข้ง เขาได้ชื่นชมแข้งวัยเก๋ารายนี้ คือหนึ่งในนักเตะที่มีส่วนสำคัญ ช่วยให้ทีมชาติญี่ปุ่น รวมถึงวงการฟุตบอลญี่ปุ่น สามารถพัฒนาได้มาถึงทุกวันนี้
"ผมคิดว่าเขา (ยาสุฮิโตะ เอ็นโด) มีส่วนสำคัญเป็นอย่างมากต่อวงการฟุตบอลญี่ปุ่น เขามีส่วนช่วยในการพัฒนาฟุตบอลญี่ปุ่น ในฐานะนักเตะ" ฮาจิเมะ โมริยาสุ กล่าวถึงความสำคัญของ ยาสุฮิโตะ เอ็นโด ที่มีต่อวงการฟุตบอลญี่ปุ่น
"เขาทุ่มเทให้กับทีมชาติ และทำให้เราเห็นว่า ญี่ปุ่น สามารถแข่งขันกับชาติอื่น ๆ ในเวทีระดับโลกได้ ซึ่งสิ่งที่เขาทำ ได้นำเราไปสู่จุดที่เราเป็นอยู่ในทุกวันนี้ เขาไม่ได้เป็นนักเตะที่เป็นเลิศในเรื่องของสภาพร่างกาย แต่เขามีความสามารถที่สูงในแง่ของฟุตบอล ทั้งเทคนิค การอ่านเกม การจ่ายบอลที่ชาญฉลาด"
"เขาสอนให้ผมได้เห็นถึงความสนุกของการเล่นฟุตบอล เขาได้ถ่ายทอดเสน่ห์ของฟุตบอลให้แฟนบอลทุกคนได้เห็น ผมจะมีความสุขมาก ถ้ามีนักเตะแบบ ยาสุฮิโตะ เอ็นโด เกิดขึ้นมาอีกในอนาคต และผมหวังว่าเขาจะทํางานหนักต่อไปในบทบาทของโค้ช ขอบคุณสําหรับการทํางานอย่างหนักของคุณมาจนถึงตอนนี้"
ยาสุฮิโตะ เอ็นโด ถูกยกย่องให้เป็นนักเตะที่ดีที่สุดคนหนึ่งของวงการฟุตบอลญี่ปุ่น โดยตลอดอาชีพการค้าแข้ง เจ้าตัวไม่เคยออกไปเล่นในต่างแดนเลย มีจุดเด่นอยู่ที่การเล่นลูกเซ็ตพีช และการจ่ายบอลให้เพื่อนทำประตูได้อย่างเหนือชั้น
